โรงเรียนอนุบาลกิตติคุณอุบลราชธานี ยินดีต้อนรับทุกท่าน

ห้องนิทาน


กวางน้อยกับจระเข้

นานมาแล้วในป่าใหญ่แห่งแอฟริกา มีจระเข้ใจร้ายตัวหนึ่งอาศัยอยู่ร่วมกับฝูงที่แม่น้ำสายกว้างใหญ่ เจ้าจระเข้ร้ายคอยจ้องจับลูกกวางน้อยตัวหนึ่งกินมานานแล้วแต่ก็จับไม่ได้สักที เพราะเจ้าลูกกวางตัวนี้ฉลาดเฉลียวและว่องไวอย่าบอกใคร
จนมาวันหนึ่ง ลูกกวางอยากจะข้ามแม่น้ำสายนี้ไปเพื่อกินหญ้าอ่อนเพิ่งขึ้นใหม่ๆที่ทุ่งหญ้าอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ กวางน้อยรู้ดีว่าในแม่น้ำมีจระเข้อาศัยอยู่ และมันก็ไม่รู้ว่าจะผ่านเจ้าจระเข้ร้ายนี้ไปได้อย่างไร เจ้าลูกกวางพยายามครุ่นคิดอย่างหนักจนคิดแผนดีๆขึ้นมาได้ในที่สุด
กวางน้อยเดินไปริมฝั่งแม่น้ำแล้วก็ตะโกนเรียกจระเข้ด้วยเสียงดังที่สุดเท่าที่มันจะตะโกนได้  เจ้าจระเข้ได้ยินเสียงก็รีบโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำทันทีด้วยความอยากกิน “แหม แหม เจ้าลูกกวางน้อยกระดูกอ่อน วันนี้เจ้าช่างใจกล้านักที่มาร้องเรียกข้า เจ้าไม่กลัวข้าจะลากเจ้าไปกินแล้วเรอะ”  
ลูกกวางน้อยแกล้งทำเป็นตัวสั่นด้วยความกลัว ดัดเสียงให้สั่นเครือแล้วพูดว่า “ข้าได้รับคำสั่งจากท่านเจ้าป่า ให้มานับจำนวนจระเข้ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ เพื่อเชิญไปงานเลี้ยงใหญ่ค่ำวันนี้น่ะ ท่านช่วยบอกให้เพื่อนๆของท่านลอยตัวขึ้นมาเรียงต่อกันให้ครบทุกตัวนะ ข้าจะได้นับได้ถูกต้องครบถ้วนเดี๋ยวจัดอาหารไม่พอล่ะก็ข้าจะโดนท่านเจ้าป่าทำโทษเอาได้  อ้อ!! แล้วพวกท่านอย่าได้คิดกินข้าเชียวนะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็พวกท่านทั้งหมดจะต้องอดไปงานเลี้ยงแน่ๆ”  พวกจระเข้หลงเชื่อพากันเรียกพวกพ้องขึ้นมาลอยตัวเรียงกันทอดเป็นแถวยาวจากฝั่งแม่น้ำด้านนี้ไปจนถึงฝั่งแม่น้ำด้านตรงข้ามเลยทีเดียว
เจ้าลูกกวางมองเห็นสะพานทอดตัวพร้อมให้ข้ามไปแล้ว ก็กระโดดไปบนหลังของจระเข้ทีละตัว แล้วก็ตะโกนนับไปด้วยดังๆว่า “ตัวที่ 1,  ตัวที่ 2, ตัวที่ 3 .......ตัวที่ 24 จนกระทั่งมันขึ้นไปบนฝั่งด้านตรงข้ามได้สำเร็จตามแผน  เจ้าลูกกวางน้อยก็หันหลังกลับมาหัวเราะยั่วเย้าฝูงจระเข้ว่า “ขอบใจนะจ๊ะลุงจระเข้ทั้ง 24 ตัว ที่ใจดีช่วยเป็นสะพานให้ข้าข้ามแม่น้ำได้สบายๆ แถมยังไม่ต้องถูกกินด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ฝ่ายจระเข้ทั้งหลายเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกก็หัวเสียมากๆฟาดหัวฟาดหางไปมาจนน้ำกระจาย และตำหนิเจ้าจระเข้ใจร้ายตัวนั้นที่เป็นต้นเหตุทำให้เพื่อนๆเสียหน้าเสียรู้ให้แก่กวางน้อย




ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก นาฬิกา

ในขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับสบายอยู่นั้น  ยังมีเสียงดัง ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก แว่วมา  เสียงของใครกันนะ  นั่นเป็นเสียงของ “คุณตัวกลม” นาฬิกาปลุกสีแดงที่ยังเดินแผ่วๆอยู่ในความมืด ท้องฟ้าใก้ลสว่างแล้วซินะ นาฬิกาน้อยแสนขยันทำหน้าที่ของตัวเองมาตลอดทั้งคืน อีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาสั่นกระดิ่ง ปลุกด.ญ.สายไหมแล้ว นาฟิกาน้อยตื่นเต้นขึ้นทุกขณะที่เข็มเดินไปข้างหน้า
จะมีใครรู้ไหมหนอ ว่าเหล่านาฬิกาเขาตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองแค่ไหน เพื่อจะไม่ให้เดินผิดพลาดไปแม้สักนาทีเดียว คติของพวกนาฬิกาก็คือ แม้ว่าตัวเองจะเป็นแค่เครื่องจักรเล็กๆ แต่ก็จะไม่ยอมทำงานผิดพลาดเลย “พวกเรานาฬิกา รักษาเวลา ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้เราตัวเล็ก แต่ก็สำคัญ เดินผิดพลาดนั้น ทำคนวุ่นวาย”
โอ๊ยมัวแต่ร้องเพลงเชียร์เพลินเลยเรา ถึงเวลาปลุกแล้ว  กรี๊งงงงงง เสียงนาฬิกาดังขึ้น ด.ญ.สายไหม พลิกตัวแล้วค่อยๆยืดแขนขึ้นไปจับนาฬิกากดปุ่มปิดเสียงอย่างงัวเงีย ห้าว...เช้าแล้วซิ เด็กสาวตากลม ผมสั้นลุกขึ้นจากเตียงนอนไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมไปโรงเรียนเหมือนทุกวัน “ขอบใจนะจ๊ะคุณตัวกลมที่ปลุกฉัน” คุณตัวกลมยิ้ม..เราโชคดีจังที่เป็นนาฬิกาของสายไหม
ณ บ้านติดกันนั้นก็ยังมีนาฬิการูปอุลต้าแมน สุดเท่ กำลังร้องเพลงปลุกดังสนั่น แต่ในใจของนาฬิกาอุลต้าแมนนั้นหวาดกลัวมาก เพราะเขาเป็นนาฬิกาปลุกของตังเม เด็กชายจอมกวนที่ปิดเสียงนาฬิกาด้วยการขว้างมันลงพื้นทุกวันน่ะซี นั่นๆ ตังเมพลิกตัวแล้ว กลิ้งมาทางนี้แล้ว เค้าจับชั้นแล้ว โอ๊ย..อย่านะ อั่ก เสียงนาฬิกาถูกขว้างลงบนพื้นตามเคย นาฬิกาอุลต้าแมนจุกจนต้องเงียบเสียงลงในที่สุด เฮ้อทำไมเราต้องมาเป็นนาฬิกาของนายตังเมจอมโหดด้วยนะ
วันนี้นาฬิกาอุลต้า รู้สึกว่าเข็มยาวของเขาเดินขยับผิดปกติแล้ว มันออกแรงยกมากขึ้นเพื่อหมุนเข็มให้ขยับเดินต่อไป แต่ก็ทำได้ไม่ดีพอ แย่แล้วซิเรา วันต่อๆไปอาการของเข็มยาวก็ยิ่งชัดเจนขึ้นหลังถูกขว้างๆ ๆ ๆ จนในที่สุดคืนก่อนวันสอบของด.ช.ตังเม นาฬิกาอุลต้า ผืนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาเดินช้าลงถึง 1 ชม. ซึ่งนั่นก็ทำให้ตังเมตื่นสายกว่าปกติ แต่เขาก็ยังไม่รู้ตัว จนไปถึงโรงเรียน ปรากฏว่าเพื่อนๆในห้องเริ่มทำข้อสอบกันแล้ว มาสายซะแล้วซี เป็นไปได้ไงเนี่ย
เขาแปลกใจมาก เมื่อรู้ว่าสาเหตุเพราะนาฬิกาของเขาเดินช้าลงมาก จึงรีบเอาไปซ่อมและคุณช่างก็เตือนว่าอย่าทำให้นาฬิกาตกพื้นบ่อยๆนะเครื่องจะรวนเสียหายแบบนี้แหละ
ด.ช.ตังเม ตั้งใจว่าต่อไปนี้จะไม่ขว้างนาฬิกาอุลต้าแมนอีกแล้วเพราะเขาเข็ดแล้วไม่อยากไปโรงเรียนสายอีก





เต่ากับงู

ในกาลครั้งหนึ่งหลายร้อยปีผ่านมาแล้ว    มีเต่าและงูอาศัยอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำสายหนึ่ง ทั้งเต่าและงู
ต่างก็เป็นศัตรูคู่แค้นกันเนื่องจากต่างก็แย่งกันเป็นใหญ่    ต้องการจะเป็นราชา แห่งลุ่มน้ำนี้ งูพยายามอยู่
เสมอที่จะฉกเต่าให้ตาย    แต่เต่าก็จะรีบหดหัว    หดขาเข้ากระดองไปทุกครั้ง งูจึงได้แต่ฉกกัดกระดองที่
แข็งซึ่งไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไรให้แก่เต่าเลย    เต่าจึงหัวเราะเสียงดัง   ฮ่าๆๆ    แล้วกล่าวว่า


"เห็นไหม    ไม่มีใครทำอันตรายข้าได้ ข้าเป็นราชาแห่งลุ่มน้ำนี้    
ฮ่าๆๆ"งูโกรธมากจึงถามขึ้นว่า    "ท่านทำอย่างไรจึงได้แข็งแรง
อย่างนี้"เต่าตอบว่า    "ข้าแข็งแรง    เพื่อนๆของข้าก็แข็งแรง    
ทั้งนี้เพราะพวกเราต้องตัดศีรษะของพวกเราในเวลากลางคืนทุกวัน"
"เอ๊ะ น่าสนใจดีนี่    ถ้าข้าจะชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยท่านจะแสดงการ
ตัดศีรษะให้พวกข้าดูด้วยได้ไหม"อ๋อ ได้ซิ"    เต่าตอบตกลง

ดังนั้น    ทั้งงูและเต่าต่างก็ชวนเพื่อนฝูงและครอบครัวมากันอย่าง
มากมาย พวกเต่าจะอยู่ที่ฝั่งด้านหนึ่งของแม่น้ำ    ส่วนงูนั้นคอยเฝ้าดูอยู่อีกฝั่งหนึ่ง

เต่าตัวแรกจะถือท่อนไม้แข็งไว้    และแสดงท่าเหมือนกำลังจะ
ตัดศีรษะเต่าอีกตัว    ส่วนเต่าตัวอื่นๆก็ทำตาม    แต่พวกเต่าไม่ได้
ตัดศีรษะจริงๆ เพียงแต่พวกมันหดศีรษะเข้าไปในกระดองเท่านั้น

        พวกงูทั้งหลายหลงเชื่อเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและน่าสนใจ ดังนั้นในตอนสายๆ
        ของวันรุ่งขึ้น    มันจึงเดินทางมาหาเต่าแล้วพูดว่า

"พวกข้าต้องการตัดศีรษะทุกๆคืน    จะได้แข็งแรงอย่างพวกท่าน    แต่พวกเราไม่มีมือ 

ไม่มีเท้า จึงอยากให้พวกท่านช่วย"

"อ๋อ   ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง"    เต่ารีบอาสาทันทีพร้อมยิ้มอยู่ในใจ

พอตกกลางคืน    เต่าทุกๆตัวต่างก็ถือท่อนไม้แข็งไว้    และใช้ท่อนไม้นี้
ตัดศีรษะของงูทุกๆตัว    แต่งูไม่มีกระดองที่จะหดศีรษะไว้ข้างในได้
ดังนั้นงูจึงถูกเต่าใช้ท่อนไม้แข็งตีศีรษะจนตายทุกตัว     เต่ากับงู

        เมื่อพวกงูตายหมดแล้ว พวกเต่าก็ได้เป็นใหญ่
        เต่าตัวที่เป็นเจ้าของความคิดก็กลายเป็นราชา
        แห่งลุ่มน้ำนี้อย่างไม่มีคู่แข่งตลอดไป




นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด "





กบสาวแต่งงาน

กบสาวกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งแต่งงานอยู่ด้วยกันมานานแต่พวกเขา
ก็ไม่มีลูก พวกเขาอยากมีลูกมากจึงสวดมนต์ต่อเทวดาวิงวอนขอให้ได้ลูกสักคน และแล้ว
วันหนึ่งความฝันของทั้งคู่ก็เป็นจริงเมื่อทั้งสองเปิดประตูบ้านในตอนเช้า ก็พบตระกร้าเล็กๆ
ใบหนึ่งวางอยู่หน้าบ้าน

ในตะกร้านั้นมีกบน้อยตัวหนึ่งนอนตาใสแป๋วอยู่ สองสามีภรรยานึกเอ็นดูจึงเลี้ยงดูกบตัวนั้น

เป็นลูกสาวและดูแลสั่งสอนทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ทำ ให้แก่เธอ กบสาวเธอชอบร้องเพลงมาก ที่น่ามหัศ
จรรย์คือเธอมีน้ำเสียงไพเราะ หวานใส จนทำให้ผู้คนละแวกนั้นพากันคิดว่าเจ้าของเสียงต้องเป็นหญิงสาว
แสนสวยแน่ๆ
อยู่มาวันหนึ่งมีเจ้าชายรูปงามขี่ม้าผ่านมา เจ้าชายได้ยินเสียงเพลงของกบสาวเข้า พระองค์ตกหลุมรัก
เจ้าของเสียงนั้นทันที เจ้าชายหยุดม้าลงมาพบกับสองสามีภรรยาเพื่อขอแต่งงานกับลูกสาวของพวกเขา

กบสาวที่แอบดูอยู่ก็หลงรักเจ้าชายในทันทีเช่นกันจึงรีบซ่อนตัวอยู่หลังผ้าม่าน และส่งเสียงตอบไปว่า 

 “หม่อมฉันยินดีแต่งงานกับเจ้าชาย แต่มีข้อแม้ว่าจะปรากฏตัวให้พระองค์เห็นในห้องที่จัดเตรียมไว้เป็น
การส่วนตัวเท่านั้นเพคะ”
เมื่อวันแต่งงานมาถึง เจ้าสาวกบก็นั่งรถที่ปิดมิดชิดมายังปราสาท เจ้าชายตกใจแทบสิ้นสติเมื่อรู้ว่าเจ้าสา
ของพระองค์คือกบ พระองค์จึงจับกบสาวโยนทิ้งออกไปนอกปราสาททันที แต่ทว่าพระองค์ไม่สามารถตัด
ใจจากเสียงอันไพเราะของกบสาวได้ พระองค์จึงตัดสินใจขอเธอแต่งงานใหม่อีกครั้ง
คราวนี้กบสาวใช้ไก่โต้งเทียมรถเปิดประทุนของเธอ ขับไปยังปราสาท ระหว่างทางมีนางฟ้าสององค์กำลัง
ช่วยกันหาวิธีเอาก้างปลาซึ่งติดคอเพื่อนนางฟ้าอีกองค์ออกอยู่ เมื่อนางฟ้าองค์นั้นเหลือบเห็นเจ้าสาวกบ
ขับรถ เทียมไก่โต้งแล่นตะบึงผ่านไปก็หัวเราะ เสียงดัง ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ๋า จนก้างปลากระเด็นหลุดจากคอ
นางฟ้าทั้งสามดีใจมากที่กบสาวมีส่วนสำคัญในการช่วยพวกนาง จึงให้รางวัลแก่กบสาว
นางฟ้าผู้สวมชุดสีชมพู พูดว่า “ฉันจะเนรมิตรรถม้าสีทองคันงามให้แก่เธอนะจ๊ะ” แล้วรถของกบสาวก็กลาย
เป็นรถสีทองหรูหราสวยงามที่สุด
นางฟ้าผู้สวมชุดสีฟ้า พูดว่า “ฉันจะเนรมิตรชุดเจ้าสาวที่สวยที่สุดให้แก่เธอ” ทันใดชุดที่กบสาวสวมอยู่ก็
กลายเป็นชุดเจ้าสาวแสนสวย
และนางฟ้าผู้สวมชุดสีเหลือง ซึ่งเป็นองค์ที่ก้างติดคอ พูดว่า “ส่วนฉันผู้ที่เธอได้ช่วยเหลือมากที่สุด ฉันก็จะ
มอบสิ่งที่วิเศษที่สุดให้แก่เธอเช่นกัน” แล้วนางฟ้าก็โบกคทาดาว ประกายระยิบระยับพร่างพรมลงมาบนตัว
ของกบสาว แล้วกบสาวก็กลายร่างเป็นหญิงสาวผิวเข้มที่สวยบาดตาบาดใจไปในทันที

เมื่อกบสาวไปถึงพระราชวังเจ้าชายแทบจะไม่เชื่อสายตาว่าเจ้าสาวกบของพระองค์กลายร่างเป็นหญิงสาว

ที่สวยงามขนาดนี้และที่สำคัญเธอมีเสียงเพลงไพเราะที่ทำให้ทุกคนที่ได้ฟังมีความสุข

กบสาว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น